ปลูกผม / รักษาผมร่วง ผมบาง
สำรวจสาเหตุผมร่วง พร้อมบอกแนวทาง
คืนผมสวยเป็นธรรมชาติ
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนวัยไหน เพศหญิงหรือชาย เชื่อว่าย่อมไม่มีใครอยากให้ปัญหาผมร่วงผมบาง ศีรษะล้านเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ผมของคนเรานั้นร่วงอยู่ทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะร่วงอยู่ที่ประมาณ 100 เส้นต่อวัน แต่ถ้าผมร่วงเยอะมากกว่านี้ แสดงว่าเส้นผมเริ่มมีความผิดปกติ และมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาผมร่วงผมบาง หรือศีรษะล้านตามมาได้ สำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง คงมีความสงสัยว่าสาเหตุผมร่วงเกิดจากอะไร และมีวิธีแก้ผมร่วงผมบางอย่างไรได้บ้าง
เราจะมาบอกให้รู้กันที่นี่
ไขข้อสงสัย ปัญหาผมร่วงเกิดจากอะไร?
ปัญหาผมร่วงและผมบาง รวมไปถึงศีรษะล้าน นับเป็นปัญหาที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะแม้จะไม่ส่งผลกระทบทางสุขภาพร่างกายมากนัก แต่มักจะมีผลกระทบทางด้านจิตใจ และทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ สำหรับประเภทของภาวะผมร่วงและผมบาง (Alopecia) นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
ประเภทของภาวะปัญหาผมร่วงและผมบาง
- ภาวะผมร่วงแบบมีแผลเป็นบนหนังศีรษะ (Scarring alopecia) กลุ่มนี้จะมีการทำลายต่อมผม (Hair follicle) ทำให้ผมไม่สามารถงอกขึ้นใหม่ได้ โดยเกิดจากสาเหตุผมร่วงต่าง ๆ เช่น อุบัติเหตุบริเวณศีรษะ,แผลจากความร้อนหรือสารเคมี, ผมถูกดึงเรื้อรัง, การติดเชื้อแบคทีเรีย/ เชื้อรา/ เชื้อไวรัสบางชนิด เป็นต้น
- โรคผมบางศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมนเพศชาย (Androgenetic alopecia) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง แต่มีลักษณะแตกต่างกันในแต่ละเพศ สาเหตุหลักเกิดจากพันธุกรรมและผลของฮอร์โมนเพศชาย Dihydrotestosterone (DHT) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่แปลงมาจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ส่งผลต่อวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม
สาเหตุของผมร่วงเกิดจากอะไร ?
โรคผมบางศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์เป็นปัญหาที่พบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง โดยสาเหตุผมร่วงเกิดจากกรรมพันธุ์จะมีด้วยกัน 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้
- พันธุกรรม (Genetic) :โดยยีนของฝั่งแม่จะมีผลต่อตัวโรคมากกว่าฝั่งพ่อ
- ฮอร์โมนเพศชาย (Androgen) : ฮอร์โมน Dihydrotestosterone (DHT) ที่สร้างขึ้นมาในร่างกายจะไปจับตรงจุดรับ (Receptor) บริเวณต่อมขน (Hair follicle) ทำให้วงจรของเส้นผมสั้นลงและเกิดผมร่วงเยอะมาก รวมทั้งขนาดของเส้นผมเล็กลงจนเป็นไรขน เมื่อตัวโรครุนแรงขึ้น จะเกิดเป็นบริเวณที่ต่อมขนฝ่อ และกลายเป็นบริเวณ ศีรษะล้าน (Baldness)
โดยหากตัวโรคยังเป็นภาวะผมบาง หรือผมเส้นเล็ก จะยังสามารถทำการรักษาผมบางด้วยการรับประทานยา หรือทำทรีตเมนต์เส้นผมต่าง ๆ ได้ แต่หากการดำเนินโรคมาจนถึงภาวะศีรษะล้านแล้ว จะต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายเส้นผม (Hair transplantation) เท่านั้น
การรักษาผมบาง ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย (ที่ยังไม่ถึงขั้นศีรษะล้าน)
สำหรับวิธีการรักษาผมบาง รักษาผมร่วง ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะมีกระบวนการในการรักษา ดังต่อไปนี้
- ยารับประทาน (Oral medication) ถือเป็นวิธีเบื้องต้นที่สุดในการแก้ผมร่วง แก้ผมบาง อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน จำเป็นต้องรับประทานยาติดต่อกันอย่างเคร่งครัด 12-18 เดือน โดยในช่วง 1-2 เดือนแรกจะมีการผลัดใบเส้นผมตามวงจรเส้นผม และจะเริ่มเห็นผลเมื่อรับประทานยาต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน โดยยาทานที่มักใช้กันในปัจจุบัน ได้แก่
- Finasteride : กลไกของยาจะไปยับยั้งเอนไซม์ 5-Alpha reductase ทำให้ลดการสร้างฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นสาเหตุของการทำลายรากผมได้ ในผู้ชายหลายคนมีความกังวลถึงผลข้างเคียงของตัวยาชนิดนี้ต่อเรื่องสมรรถภาพทางเพศที่อาจลดน้อยถอยลง แต่จากงานวิจัยพบว่า สามารถเจอภาวะนี้ได้เพียง 1.9 % ของคนที่รับประทานยาเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก และไม่ได้เป็นถาวร
- Minoxidil : กลไกของยาจะไปขยายหลอดเลือดแดงในร่างกาย ทำให้เลือดสามารถเข้าไปเลี้ยงบริเวณรากผมได้ดียิ่งขึ้น
- Zinc & Biotin : เป็นกลุ่มของวิตามินและแร่ธาตุบำรุงเส้นผมที่ช่วยแก้ผมร่วง แก้ผมบางได้ โดยมีส่วนในการช่วยสร้าง Keratin ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเส้นผม
- ยาทา หรือเซรัม (Topical treatment) : เป็นอีกหนึ่งวิธีการแก้ผมร่วง แก้ผมบาง โดยจะเป็นตัวยาในกลุ่ม Finasteride และ Minoxidil เช่นเดียวกับยาในรูปแบบรับประทาน และให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แตกต่างกัน หากมีการใช้ยาที่ถูกต้อง โดยจะพิจารณาใช้ในกลุ่มคนไข้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากยารับประทานเป็นหลัก
3. การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น : เป็นการรักษาปัญหาผมร่วงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยการนำเลือดของตัวเองไปปั่นให้เกิดการแยกชั้น โดยในชั้น Plasma ที่แยกออกมาได้ จะเป็นชั้นที่มีองค์ประกอบของ Growth factor และวิตามินต่าง ๆ ของร่างกาย แล้วจึงนำชั้นดังกล่าวฉีดกลับเข้าไปตรงบริเวณที่มีภาวะผมบาง เพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมรากผมในบริเวณดังกล่าวโดยตรง
4. การฉีดสารสกัด Exosome : เป็นการรักษาปัญหาผมร่วงโดยใช้สารประกอบโปรตีนและเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) อนุภาคเล็ก สกัดจากสายสะดือหรือไขกระดูก โดยนำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะที่ผมบาง เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์รากผม โดยให้ผลลัพธ์อยู่ที่ 8-12 เดือน
5. การฉีดเซลล์ต้นกำเนิดของตนเอง (Regenera activa) : เป็นนวัตกรรมการรักษาใหม่ในปัจจุบัน โดยการสกัดเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell ) จากรากผมของตนเอง แล้วนำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นการแบ่งเซลล์ของรากผม ผลจากงานวิจัยในปัจจุบันมีแนวโน้มผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาผมบางระยะน้อย และแนะนำใช้ร่วมกับการปลูกผมในระยะรุนแรงเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
คลินิก MAX HAIR สามารถให้บริการรักษาภาวะผมบางดังที่กล่าวมาข้างต้นได้ทุกรูปแบบวิธี รวมถึงมีเคสคนไข้จริงที่เข้ารับการรักษาและได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นมากมาย ซึ่งแต่ละเคสก็จะมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์และการได้รับการรักษาที่ถูกต้องที่สุด สามารถเข้ามารับการปรึกษากับแพทย์ที่คลินิกเพื่อประเมินการรักษาได้ก่อนเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
คำถามที่พบบ่อย
การปลูกผมเป็นการย้ายเซลล์รากผมจากด้านหลังท้ายทอย มาปลูกในบริเวณที่มีปัญหา การรักษาด้วยเลือดเกล็ดเข้มข้น จึงเปรียบเสมือนการทำทรีตเมนต์ เพื่อเติมสารอาหารให้กับเซลล์รากผม ซึ่งจะช่วยให้รากผมที่ปลูกแข็งแรงขึ้น
คลินิก MAX HAIR ให้บริการรักษารักษาผมร่วง-ผมบาง หลากหลายวิธีตามความเหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละราย ไม่ว่าจะเป็น ใช้ยารับประทานชนิดเม็ด / ยาทาในรูปแบบ Spray / Laser Therapy / การรักษาด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น
สาเหตุหลักที่ทำให้ผมร่วงสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ พันธุกรรมและฮอร์โมน DHT
มีส่วนเล็กน้อย จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม หรือเข้ารับบริการจัดแต่งทรงผมโดยที่มีประสบการณ์เท่านั้น และไม่ควรใช้สารเคมีกับผมและหนังศีรษะบ่อยเกินไป
การรับประทานยาปลูกผมในปริมาณที่เหมาะสมไม่มีผลต่อตับ
มีผลข้างเคียงน้อยมาก คนไข้จำนวนน้อยกว่า 2% เท่านั้นที่จะพบอาการดังกล่าว โดยหลังจากใช้ยาไปสักพัก อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น คนไข้ควรแจ้งแพทย์ทันทีหากมีอาการไม่พึงประสงค์
ไม่เป็นความจริง การสระผมไม่ได้เป็นสาเหตุผมร่วง ดังนั้น เพื่อสุขภาพหนังศีรษะที่ดี ทุกคนควรสระผมให้สะอาด โดยการล้างแชมพูและครีมนวดออกให้หมด และเป่าผมให้แห้งทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่ควรสระผมบ่อยเกินไป เช่น เกินวันละ 1 ครั้ง
ไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม การพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ Growth Hormone หลั่งได้อย่างเป็นปกติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม
ไม่เป็นความจริง วิตามินบำรุงผม มีส่วนช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นได้ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาผมร่วงได้