‘หัวเถิก’ หรืออาการแนวผมร่นบริเวณหน้าผาก ถือเป็นปัญหาที่หลายคนเป็นกังวล เพราะนอกจากจะกระทบต่อบุคลิกภาพ ยังเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บอกถึงสุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะอีกด้วย
แม้ว่าอาการหัวเถิก จะเกิดจากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างเรื่องพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศชาย แต่ก็มีวิธีที่ช่วยรักษาภาวะนี้อย่างเห็นผล
หัวเถิกคืออะไร ?
หัวเถิกคือภาวะที่แนวเส้นผมบริเวณหน้าผากเริ่มร่นขึ้นไป ทำให้หน้าผากดูกว้างกว่าปกติ ซึ่งพบได้บ่อยในเพศชาย โดยสามารถเกิดได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น
- หัวเถิกแบบเป็นแนว (Receding Hairline) เป็นการถอยร่นของเส้นผมที่เป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้งครึ่งวงกลม โดยมีลักษณะคล้ายตัว U มักเริ่มจากบริเวณด้านข้างของหน้าผากก่อน แล้วค่อยลุกลามไปยังบริเวณกลางศีรษะ
- หัวเถิกแบบตัว M (V-shaped Hair Growth หรือ Widow’s Peak) เป็นการถอยร่นของเส้นผมจากสองข้างของหน้าผาก แต่บริเวณกลางหน้าผากจะยังคงมีผมอยู่ ทำให้มีลักษณะคล้ายตัว M จากนั้นจะลุกลามจนหัวล้านในที่สุด
ภาวะหัวเถิกในเพศหญิงสามารถพบเจอได้เช่นกัน มักพบในผู้หญิงที่มีแนวผมธรรมชาติที่สูงอยู่แล้วทำให้หน้าผากกว้างมักเป็นปัญหาเวลารวบตึง และพอมีปัญหาเส้นผมบางร่วมด้วยจึงทำให้ปัญหาชัดเจนมากขึ้น
สาเหตุของหัวเถิก
ปัญหาหัวเถิกเกิดจากหลายสาเหตุ โดยมีปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้
พันธุกรรม
พันธุกรรมถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดหัวเถิก โดยเฉพาะในเพศชาย ดังนั้นหากครอบครัวมีประวัติศีรษะล้านหรือหัวเถิก ก็มีโอกาสเผชิญกับปัญหานี้ค่อนข้างสูง
ฮอร์โมน
ฮอร์โมน DHT ที่ผลิตขึ้นมาในร่างกายจะมีผลทำให้รากผมอ่อนแอ รวมถึงรูขุมขนหดตัวและเส้นผมบางลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหัวเถิกในที่สุด
ความเครียด
ความเครียดเรื้อรังสามารถกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งส่งผลเสียต่อการไหลเวียนโลหิตที่หล่อเลี้ยงบริเวณหนังศีรษะ ทำให้รากผมอ่อนแอ จึงเป็นสาเหตุของผมหลุดร่วงและการเกิดหัวเถิกได้
อายุ
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น การผลิตคอลลาเจนและเคราตินที่จำเป็นสำหรับเส้นผมจะลดลง ส่งผลให้เส้นผมบางลงและมีโอกาสเกิดหัวเถิกได้ง่ายขึ้น
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การนอนดึก การสูบบุหรี่ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีสารเคมีรุนแรง ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหัวเถิกทั้งสิ้น
สัญญาณเตือนของหัวเถิก
หากกำลังสงสัยว่าตนเองเริ่มมีภาวะหัวเถิกแล้วหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากสัญญาณต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ถ่ายรูปปัจจุบันเทียบกับสมัยก่อนเริ่มเห็นแนวผมเปลี่ยน
- จัดแต่งทรงผมได้ยากาขึ้น
- บางคนจะเห็น landmark ชัด เช่น แผลเป็น หรือไฝที่ซ่อนอยู่ในผมเริ่มปรากฎ
วิธีป้องกันและดูแลหัวเถิก
สำหรับวิธีแก้หัวเถิกที่เกิดกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง สามารถทำได้ ดังนี้
ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ
วิธีที่จะช่วยป้องกันผมหลุดร่วงจนเกิดภาวะหัวเถิก สามารถทำได้ง่าย ๆ คือการใส่ใจดูแลสุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ ด้วยวิธีการดังนี้
- ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผม
- หมั่นนวดหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
หากมีประวัติกรรมพันธุ์จากครอบครัวควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและรักษาให้ตรงกับปัญหาของแต่บุคคล
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
สิ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหัวเถิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5 หมู่ ที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินบี ธาตุเหล็ก และสังกะสี
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
ลดความเครียด
การลดความเครียด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันและชะลอการเกิดหัวเถิกได้ โดยสามารถทำได้ด้วยวิธีเหล่านี้
- ฝึกสมาธิ ปรับสมดุลของจิตใจ เพื่อลดความกดดันในชีวิตประจำวัน
- ออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และเพิ่มสารเอ็นดอร์ฟิน ช่วยลดความเครียด
- จัดเวลาให้สมดุล เพื่อการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
- ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมเฉพาะจุด
ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของสารสกัด ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นรากผม รวมถึงเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เส้นผม ตลอดจนหนังศีรษะ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ลดโอกาสการเกิดผมขาดหลุดร่วง หรือหัวเถิกได้
ทางเลือกการรักษาหัวเถิก
ทางเลือกในการแก้หัวเถิก สามารถใช้วิธีการรักษาที่เห็นผลได้ชัดเจน ดังนี้
การรักษาด้วยยา
ในปัจจุบันยาที่ใช้ในการรักษาจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
- Minoxidil เป็นยาทาที่ช่วยขยายหลอดเลือด กระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของโลหิต เพื่อช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผม
- Finasteride เป็นยารับประทานที่ช่วยลดฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งมีบทบาททำให้เส้นผมมีขนาดเล็กลง และรากผมไม่แข็งแรง
ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
การรักษาด้วยเลเซอร์
การใช้เลเซอร์ระดับต่ำ สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณหนังศีรษะและส่งเสริมการงอกใหม่ของเส้นผมได้
การปลูกผม
การปลูกผมใช้รักษาในรายที่มีปัญหารุนแรง แนวผมร่นถอยชัดเจนจนเกิดเป็นปัญหาศีรษะล้าน
วิธีการรักษาที่ให้ผลถาวร เช่น การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) ซึ่งจะเป็นการย้ายเส้นผมจากบริเวณที่มีผมหนาแน่นไปยังบริเวณที่เกิดหัวเถิก ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสูง
หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาหัวเถิก หรือปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะอย่างครบวงจร Max Hair Clinic พร้อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เราคือคลินิกเวชกรรมด้านเส้นผมและหนังศีรษะที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศ รวมถึงดาราและนักแสดงชั้นนำ ด้วยการปลูกผมเทคนิค FUE ซึ่งเป็นวิธีการปลูกผมถาวรที่ได้มาตรฐานสากล ให้บริการโดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี เราพร้อมให้คำปรึกษาและประเมินการรักษาเบื้องต้นให้ฟรี สอบถามข้อมูลได้ที่ 083-289-1664 หรือ LINE: @MAXHAIR
ข้อมูลอ้างอิง :
- How to Stop Receding Hairline: 12 Science-Backed Ways You Can Help Stop Hair Loss. สืบค้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 จาก https://www.medicalnewstoday.com/articles/how-to-stop-receding-hairline
- Why Do I Have a Receding Hairline?. สืบค้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 จาก https://www.healthline.com/health/receding-hairline
- All you need to know about receding hairline. สืบค้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 จาก https://www.medicalnewstoday.com/articles/320537
- Receding Hairline. สืบค้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 จาก https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/receding-hairline