ปลูกผมเทคนิค FUE จบปัญหาผมบาง
ผมร่วง หัวล้าน แบบไร้รอยแผลเป็น

ปัญหาผมบาง ผมร่วง และศีรษะล้าน เป็นสิ่งที่บั่นทอนความมั่นใจของคนที่ต้องเผชิญ ทั้งยังสร้างความยุ่งยากในการใช้ชีวิต เพราะต้องคอยจัดทรงผมเพื่อปกปิดบริเวณที่เป็นปัญหา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้และเรียกความมั่นใจให้กลับคืนมา ได้มีการพัฒนาเทคนิคการปลูกผมถาวรที่เรียกว่า FUE (Follicular Unit Extraction) ที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาผมบาง ศีรษะล้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

แม็กซ์แฮร์ คลินิก เป็นคลินิกปลูกผมชั้นนำ ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและเหล่าคนดังมากมาย ซึ่งเราได้นำวิธีการปลูกผมแบบ FUE มาช่วยแก้ปัญหาทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย สำหรับเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE ที่ทางคลินิกเลือกใช้จะเป็นวิธีการปลูกผมที่เรียกว่า FUE-MAX ซึ่งเป็นการใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะของคุณหมอ เพื่อให้การปลูกผลได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น

แล้ววิธีการปลูกผมแบบ FUE-MAX คืออะไร? จะแตกต่างจากวิธีการปลูกผมในแบบอื่น ๆ หรือต่างจากคลินิกปลูกผมอื่นที่ใช้เทคนิค FUE อย่างไร ไปหาคำตอบกัน

ปลูกผมเทคนิค FUE-MAX คืออะไร?

ก่อนที่จะบอกให้รู้กันว่าปลูกผมเทคนิค FUE-MAX คืออะไร เราไปทำความรู้จักกับวิธีการปลูกผมแบบ FUE กันก่อน

การปลูกผมแบบ FUE เป็นการปลูกผมด้วยการย้ายเซลล์รากผม โดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด จึงทำให้มีแผลขนาดเล็ก และไร้รอยเย็บแผล ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติ มั่นใจได้ว่าผมที่งอกขึ้นมาใหม่ จะไม่หลุดร่วงซ้ำให้ต้องเจ็บช้ำใจ

ในส่วนของการปลูกผมเทคนิค FUE-MAX ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทางแม็กซ์แฮร์ คลินิก นำมาให้บริการนั้น เป็นวิธีการปลูกผม FUE ที่เพิ่มความหนาแน่นของกราฟที่ปลูกขึ้นอีก 20% ทำให้ผมที่ขึ้นใหม่ดูเป็นธรรมชาติและหนาแน่นกว่า FUE แบบปกติโดยมีรายละเอียดดังนี้ 

  1. การปลูกผมเทคนิค FUE-MAX จะเลือกใช้หัวเจาะที่มีขนาดเล็ก สำหรับเจาะเอารากผมออกมา เพื่อสร้างรอยแผลให้เล็กที่สุด
  2. การปลูกผมเทคนิค FUE-MAX จะต้องมีการคำนวณวางแนวให้ได้ความหนาแน่นสูงสุด บนขีดจำกัดของเทคนิค FUE-MAX ซึ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและให้ความหนาแน่นได้มากกว่าทั่วไปถึง 20% จึงทำให้แนวผมใหม่นั้นดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
  3. นอกจากจะใช้หัวเจาะที่มีขนาดเล็กแล้ว หัวใจสำคัญอีกหนึ่งข้อของการใช้วิธีปลูกผมแบบ FUE-MAX คือเครื่องมือเก็บกราฟ ซึ่งหมอปลูกผม FUE ที่แม็กซ์แฮร์ คลินิก จะเลือกเครื่องมือเก็บกราฟที่มีความละเอียดสูง ลดการบาดเจ็บของรอยแผล อีกทั้งลดเปอร์เซ็นการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อกราฟผมที่มีระหว่างการเก็บกราฟ ทำให้เพิ่มอัตราการอยู่รอดของกราฟได้มากยิ่งขึ้น
  4. สิ่งสำคัญประการสุดท้ายที่ทำให้วิธีการปลูกผมแบบ FUE-MAX มอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า คือการเสริมความแข็งแรงของกราฟยิ่งขึ้นไปอีกระดับ ด้วยน้ำยาเลี้ยงกราฟผมที่ได้รับการรับรองจาก FDA (สหรัฐอเมริกา)

ความแตกต่างระหว่างการปลูกผมแบบ FUT และ FUE

หลังจากที่เราได้รู้จักกับวิธีการปลูกผมแบบ FUE กันไปแล้ว แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าแล้ว เทคนิคการปลูกผมแบบ FUE แตกต่างจากเทคนิคการปลูกผม FUT อย่างไร เรามาดูความแตกต่างของการปลูกผมทั้ง 2 วิธีกันได้ที่นี่เลย

เทคนิคการปลูกผมที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ FUT (Follicular Unit Transplantation) และ FUE (Follicular Unit Extraction) ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้ เป็นการปลูกผมโดยใช้หลักการในการย้ายรากผมเหมือนกัน แต่แตกต่างที่วิธีการเก็บกราฟผม ซึ่ง FUT จะเป็นการผ่าตัดหนังศรีษะบริเวณ DonorArea เพื่อทำการเก็บกราฟผมและเย็บปิดบริเวณปากแผล ซึ่งวิธีนี้จะได้กราฟผมที่มีจำนวนมากแต่ต้องแลกกับอาการบาดเจ็บที่ต้องทำการพักฟื้นเพื่อรักษาตัว อีกทั้งรอยแผลยังเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอีกมากมาย

ความแตกต่างของการปลูกผมเทคนิค FUE และ FUT

แต่สำหรับการปลูกผมเทคนิค FUE
(Follicular Unit Extraction) จะเป็นเทคนิคที่เกิดจากการพัฒนาวิธีปลูกผมขึ้นมาใหม่ ด้วยวิธีเก็บกราฟผมที่มีความปลอดภัยสูงและลดอาการบาดเจ็บจนไม่ต้องทำการพักฟื้นใด ๆ อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดีเทียบเท่ากันกับเทคนิค FUT

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้การปลูกผมเทคนิค FUE ที่ถึงแม้จะมีราคาค่อนข้างสูงกว่า แต่กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีการพัฒนานวัตกรรมและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อตอบสนองต่อการรักษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ผลลัพธ์ของการปลูกผมเทคนิค FUE

คำถามที่พบบ่อย

การปลูกผม FUE ใช้เวลาประมาณ 6-10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนของเส้นผมในบริเวณที่ปลูก และจำนวนกราฟต์ผมที่ต้องใช้

ความจริงแล้วสามารถทำได้โดยไม่ต้องพักงาน หากเป็นงานหรือกิจกรรมที่ไม่ต้องทำกลางแจ้งหรือออกแดด แต่ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณที่ปลูก หรือหากต้องการลางาน สามารถลาได้ 1-2 วันเพื่อลดความเสี่ยงการกระทบกระเทือนต่อกราฟต์ผมที่ปลูกไว้

ดูแลไม่ยาก แต่ในช่วง 1-2 วันแรก ต้องระวังการกระทบกระเทือนในบริเวณที่ปลูกเป็นพิเศษ และแนะนำให้เข้ามาล้างแผล พร้อมสระผมที่คลินิก (บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) นอกจากนี้ ในช่วงเดือนแรกควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือหวีผมในบริเวณที่ปลูกอย่างรุนแรง และงดการใช้สารเคมีกับผม

ผมที่นำมาปลูก ต้องเป็นผมของเราเองเท่านั้น ซึ่งเป็นเส้นผมที่นำมาจากบริเวณท้ายทอย ไม่สามารถใช้เส้นผมของคนอื่น หรือ เส้นผมเทียมมาปลูกได้

หลังปลูกผม จะเริ่มสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงได้ใน 6 เดือน จากนั้นจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนได้ใน 1 ปี และเห็นผลเต็มที่ภายใน 1.5 ปี หรือ 18 เดือน

ไม่จำเป็น การปลูกผมสามารถทำแบบไม่ต้องโกนได้ ขึ้นอยู่ขนาดกับพื้นที่ที่ต้องการปลูก และการประเมินของแพทย์

การปลูกผมวิธีนี้เป็นการปลูกผมถาวร เพราะใช้เซลล์รากผมของคนไข้มาทำการปลูกผม โดยเลือกเอาส่วนที่แข็งแรงหรือร่วงยากมาใช้ ทำให้เส้นผมที่ได้จะหลุดร่วงยากเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ คุณภาพของเส้นผมยังคงเหมือนเดิม เพียงแค่ย้ายตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งเส้นผมอาจมีการหลุดร่วงได้ตามวงจรปกติ แต่เซลล์รากผมที่แข็งแรงจะไม่ได้หลุดออกมาด้วย ดังนั้น เส้นผมที่ขึ้นมาใหม่ก็จะเป็นเส้นผมที่แข็งแรงเหมือนเดิม สามารถอยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต

ไม่เจ็บ ผู้ที่รับบริการจะไม่รู้สึกเจ็บขณะทำการปลูกผม เพราะแพทย์จะฉีดยาชาหรือให้ยานอนหลับอย่างอ่อน จะเจ็บแค่ช่วงแรกที่มีการฉีดยาชาเท่านั้น หลังจากยาออกฤทธิ์จะไม่รู้สึกเจ็บเลย